RGB กับ CMYK ต่างกันอย่างไร ?

  หากพูดถึงโหมดสีที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ก็คงหนีไม่พ้น โหมดสี RGB กับ CMYK สำหรับคนที่ใช้เป็นประจำก็จะเข้าใจดีกว่า RGB และ CMYK คืออะไร?
มันต่างกันหรือไม่ต่างกัน ? แล้วถ้ามันต่างกัน ทำไมถึงต่าง ? วันนี้สำหรับคนที่ไม่เข้าใจระหว่าง RGB และ CMYK คืออะไร? เราจะมาหาคำตอบกันค่ะ

"RGB และ CMYK ทั้งสองต่างก็คือโหมดของสีกันทั้งคู่ เพียงแต่ที่มาของสี ลักษณะของสี และการนำไปใช้งานต่างหากที่ทำให้สองโหมดสีนี้ต่างกัน

  โหมดสี RGB หรือ สีของแสง เกิดจากแสงที่มีความยาวคลื่นที่ต่างกันมารวมตัวกันเกิดเป็นสีต่างๆ เรียกว่า “การผสมสีแบบบวก” (Additive Color)

• RGB ย่อมาจาก Red Green Blue นั่นก็คือแม่สี 3 สี แดง เขียว น้ำเงิน เป็นสีที่แสดงผลในจอมอนิเตอร์ (LCD, CRT(จอนูน), LED), จอโทรทัศน์, กล้องถ่ายรูป, จอโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น งานที่ต้องเตรียมภาพใน RGB Mode เช่น งาน Website งาน Presentation ที่ต้องใช้โปรเจคเตอร์ เป็นต้น

• โหมดสี CMYK หรือ สีของสาร เกิดจากการดูดกลืนของแสงที่สะท้อนจากวัตถุ คือเมื่อแสงสีขาวตกกระทบวัตถุสีต่างๆ คลื่นแสง บางส่วนจะดูดกลืนไว้ แล้วสะท้อนออกมาเพียงบางสี เรียกว่า “การผสมสีแบบลบ” (Subtractive Color)

  CMYK ย่อมาจาก Cyan Magenta Yellow Black นั่นก็คือสีที่เราคุ้นกันดี บนตลับหมึกหรือแท๊งค์หมึกของเครื่องปริ้นท์ที่บ้านหรือสำนักงานเป็นสีที่เราสามารถมองเห็นได้บนวัตถุ และสื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆงานที่ต้องเตรียมภาพใน CMYK Mode ก็คือพวกงานที่เราต้องการพิมพ์ออกมา

  ความแตกต่างของ RGB กับ CMYK
RGB
-ข้อดี
1. สวยงามบนจอดิจิตอล
2. สามาตั้งค่าให้ตรงกับเครื่องปริ้นท์ที่บ้านหรอที่ทำงานได้ง่าย
3. เหมาะกับใช้งานบนจอคอม และโปรแกรมแต่ภาพ
4. แปลงไฟล์เป็น CMYK ได้
5. เหมาะกับใช้งานบน website
-ข้อเสีย
1. แปลงไฟล์ CMYK ทำให้สีเพี้ยนและไม่แม้นยำ

  CMYK
-ข้อดี
1. สะดวกต่อการตั้งค่าการใช้งานในระบบการพิมพ์ offset เป็นมาตรฐานในปัจจุบัน
2. มีความคมชัดสูง
3. โทนสีดูอบอุ่น
-ข้อเสีย
1. เปิดไฟล์ผ่านจอมอนิเตอร์สีจะเพี้ยน
2. ส่งไฟล์ผ่าน email หรือ social media สีจะเพี้ยน

  สรุป
RGB ใช้กับงานดิจิตอล
CMYK ใช้กับงานพิมพ์ offset

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ หวังว่าบทความนี้จะช่วยคลายข้อสงสัยของทุกคนไม่มากก็น้อยเนอะ